
ผู้ประกาศพรรคอนาคตใหม่ พูดยาว แจงเงื่อน เงิน “ธนาธร” อ้างเป็นเงินให้กู้ ไม่ใช่เงินช่วยเหลือ จำนวนไม่ตรงด้วยเหตุว่าเป็นเพดาน รวมทั้งการยืมจริง พร้อมแจกแจง กกต. ทุกใจความสำคัญ จัดแจงเพิ่มเงินค่าสมาชิกเท่าตัว เพื่อมาจ่ายและชำระหนี้คืนธนาธร
น.ส.พรรณิการ์ วานิช ผู้ประกาศพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวแจกแจงในกรณีที่นายธนาธร ก็เลยเจริญก้าวหน้าธุระหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) อวยพรรคอนาคตใหม่กู้เงิน ว่า จากที่มีการตั้งข้อคิดเห็นกันว่าจำนวนที่ออกมามันขัดแย้งนั้น อีกทั้ง 250 ล้านบาท 90 ล้านบาท แล้วก็ 110 ล้านบาท ลายสัก Avenger
ตนขอชี้แจงว่าจำนวนเงินที่เป็นวงเงินสูงสุดที่นายธนาธรกำคราวดอวยพรรคอนาคตใหม่กู้นั้น มีเพดานอยู่ที่ 250ล้านบาท แต่ว่าการจัดกิจกรรมจนกระทั่งวันออกเสียง พรรคอนาคตใหม่กู้ไป 90 ล้านบาท แล้วก็จนกระทั่งวันนี้ ก็มีการกู้เพิ่มไปอีกนิดเดียว เพื่อใช้เป็นรายจ่ายของพรรค จำนวนก็เลยอยู่ที่ 110 ล้านบาท นี่เป็นมูลเหตุที่จำนวนขัดแย้งแม้กระนั้นเป็นความรุดหน้าของการยืมเงิน ซึ่งนายธนาธรคิดดอกเบี้ยแบบเงินกู้ยืมระยะยาว เพราะว่าพรรคการเมืองไม่ใช่หน่วยงานเสาะหากำไร และก็นายธนาธรก็ไม่คิดสืบหากำไรจากการให้กู้คราวนี้
ดังนี้ จากเหตุการณ์ช่วงปลายปีที่ล่วงเลยไป มีความไม่เที่ยง ไม่รู้เรื่องว่าข้อบังคับลูกต่างๆจะออกมาเมื่อใด พรรคอนาคตใหม่ก็เลยไม่รู้เรื่องว่าการระดมทุนนั้นอะไรจะทำเป็น หรือเปล่าได้ ยังปราศจากความชัดเจน ก็เลยทำให้การระดมทุนของพรรคไม่เป็นไปตามแผนหลายประเภท เนื่องจากติดเรื่องข้อบังคับ ทำให้หาเงินไม่ทันกับค่าใช้จ่ายที่กำลังไปสู่การเลือกตั้ง รายการจ่าย รวมทั้งเจ้าหนี้ของพรรคมีหลายราย
อาทิเช่น การไปเช่าที่ทำการใน 77 จังหวัด การซื้อครุภัณฑ์ต่างๆเนื่องมาจากเป็นการเริ่มของพรรค พวกเราก็เลยมีความรู้สึกว่าแทนที่จะมีเจ้าหนี้จำนวนมากหลายราย ก็เลยขมวดเจ้าหนี้มาเป็นรายเดียว เป็นนายธนาธร แล้วก็นำเงินไปจ่ายเจ้าหนี้รายอื่นๆเพื่อบริหารจัดแจงได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม การยืมเงินคราวนี้ ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารพรรคแล้ว และก็พรรคจะเป็นผู้ชำระเงินทั้งผอง คืน นายธนาธร โดยตอนนี้พรรคกำลังวางแผนเงินอยู่ว่าจะคืนเงินทั้งปวงให้เร็วที่สุดได้เมื่อใด ซึ่งพื้นฐานมีคำแนะนำว่า อาจมีการเพิ่มอัตราค่าสมาชิกของพรรค จากคนละ 100 บาท เป็น 200 บาท เพื่อพรรคพวกเราเลี้ยงตนเองได้
ส่วนในกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสัมพันธ์หน่วยงานรักษารัฐธรรมนูญไทย จะไปยื่นสำรวจหัวข้อนี้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พวกเราก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากว่าพร้อมจะอธิบายได้ทั้งหมดทั้งปวง
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเพื่อการตั้งข้อคิดเห็นว่า หัวข้อนี้ขัดกับพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญกล่าวถึงพรรคการเมืองนั้น รับรองว่าพ.ร.เปรียญดังที่กล่าวมาข้างต้นเจาะจงเฉพาะที่มารายได้ของพรรคการเมือง มิได้เจาะจงรายการจ่าย และก็นี่เป็นการยืมเงิน ซึ่งสำหรับการติดหนี้ติดสินของพรรค เป็นรายการจ่าย ไม่ใช่รายได้
ส่วนที่บอกกันว่าคุณธนาธรเป็นหัวหน้าพรรค จะเข้าข่ายครอบครองพรรคหรือเปล่านั้น หัวข้อนี้ไม่เกี่ยวกันเลย เพราะเหตุว่าเป็นการให้กู้หนี้ยืมสิน มิได้เข้าขั้นของข้อบังคับ ส่วนที่พรรคการเมืองบางพรรคไปบิดเบือนว่า หัวข้อนี้ไม่ถูกกฎหมาย คุณธนาธรบริจาคเงินอวยพรรคเกินกำหนด นี่ไม่ใช่เงินช่วยเหลือ แม้กระนั้นเป็นเงินกู้ยืม
ซึ่งคุณธนาธรก็บริจาคอวยพรรค 10 ล้านจากที่กฎหมายระบุ มิได้มีปัญหาอะไรบ้างในหัวข้อนี้เลย นี่เป็นเงินคนละก้อนกัน คุณธนาธรอวยพรรคกู้แล้วก็จำต้องจ่ายคืนในระยะยาว รวมทั้งดอกต่ำ แม้กระนั้นมีดอกเบี้ยและก็จะต้องชำระคืนทุกบาท ทุกสตางค์